เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ถอนหายใจออกมา กล่าว: “ลูกเขยคนดี ไม่ใช่ว่าพ่อไม่อยากพูดความจริงกับเธอนะ ตอนนั้นพ่อกลัวว่าพูดความจริงกับเธอไปเธอก็จะไม่เชื่อ ตรงกันข้ามจะหาว่าพ่อพูดจาเหลวไหล”
ทันทีที่เย่เฉินได้ยินประโยคนี้ ก็รู้ว่าในนั้นยังมีความในใจที่ตนยังไม่รู้อีก ดังนั้นจึงรีบกล่าว: “โถ่พ่อครับ พวกเราสองคนก็แค่คุยเล่นกัน? ต่อให้พ่อบอกผมว่าแจกันนั้นกระโดดออกจากมือพ่อไปผมก็เชื่อ”
“ไอ้บ้า......”เซียวฉางควนที่ปลายสายทางด้านนั้นตบต้นขา หลุดปากกล่าว: “ฉันจะบอกเธอให้เย่เฉิน เธอยังไม่เชื่อจริงๆ สถานการณ์ในตอนนั้นเหมือนกับที่เธอเพิ่งพูดเมื่อครู่นี้ ไอ้แจกันโง่นั่นเหมือนกับมีคนใส่มอเตอร์สั่นเอาไว้ พอฉันยกมันขึ้นมา มันก็สั่นในมือฉันทันที แค่ครั้งนั้น ก็สั่นจนมือทั้งสองข้างของฉันชา จากนั้นก็ถือเอาไว้ไม่อยู่ ลื่นพรืดตกลงไปนั่นแหละ......”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เซียวฉางควนกล่าวอีกว่า: “ตอนนั้นฉันบอกกับโจวเหลียงเวิ่นคนนั้นแล้วว่า ของสิ่งนี้จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน เหมือนกับเป็นลมบ้าหมู แต่โจวเหลียงเวิ่นจงใจก่อความวุ่นวาย ดังนั้นถึงได้สร้างข้ออ้างที่ไม่น่าเชื่อถือแบบนั้นขึ้น......ฉันว่าเรื่องนี้ ฉันยากที่จะแก้ตัว จากนั้นก็อยากจะรีบหนี ให้เธอช่วยต้านเอาไว้ให้ฉันหน่อย”
ทันทีที่สิ้นเสียง เซียวฉางควนก็รีบกล่าวแก้ต่างให้ตนเอง: “ลูกเขยคนดี เธออย่าได้เข้าใจผิดเป็นอันขาดนะ ตอนนั้นฉันไม่ได้อยากจะให้เธอช่วยรับผิดแทนฉัน ฉันแค่อยากจะให้เธอช่วยฉันต้านทานทางด้านนั้นเอาไว้หน่อย ฉันรีบคิดหาหนทางเอาเงินมาไถ่ตัวเธอออกมา คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีความสามารถซ่อมแจกันลายครามใบนั้นให้ดีได้”
เย่เฉินไม่ได้ถือเรื่องที่เขาอธิบาย แต่กล่าวถามอย่างสงสัย: “พ่อครับ พ่อบอกว่าแจกันลายครามใบนั้นอยู่ๆก็สั่นขึ้นในมือของพ่อ รายละเอียดเป็นยังไง? เป็นโจวเหลียงเวิ่นยื่นแจกันลายครามใบนี้มาถึงมือของพ่อเลยไหม?”
“ไม่ใช่”เซียวฉางควนกล่าว: “เรื่องตอนนั้นคือ ไอ้สารเลวแซ่โจวคนนั้น เปิดกล่องที่ใส่แจกันลายครามโดยตรง จากนั้นยังให้ถุงมือสีขาวคู่หนึ่งกับฉัน ให้ฉันหยิบใบตรวจสอบของแจกันออกมาด้วยตัวเอง ตอนนั้นฉันเองก็ไม่ได้คิดมาก เลยยื่นมือออกไปรับมันมา ฉันอยากจะถ่ายรูปใบที่เขาหยิบออกมาให้แล้วลงในโมเมนต์ คิดไม่ถึงว่าอยู่ๆมันจะสั่นในมือของฉัน แล้วก็หล่นลงไปทันที”
พูดไป เซียวฉางควนก็ก่นด่า: “ตอนนี้ดูเหมือนว่า ฉันรู้สึกว่านี่เป็นไปได้เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่คนแซ่โจวคนนั้นวางกับดักฉัน ไม่แน่ว่าที่แจกันสั่นก็คือฝีมือเขา”
เย่เฉินระงับความประหลาดใจเอาไว้ในใจ พูดกับเซียวฉางควนอย่างติดตลก: “เอาน่าพ่อ เรื่องผ่านไปนานขนาดนั้นแล้ว พวกเราก็ไม่ได้เสียหายอะไร ก็ไม่ต้องเอาเก็บไปใส่ใจจนปลงไม่ได้หรอกน่า”
พูดไป เขากล่าวอีกว่า: “ใช่แล้วครับพ่อ ผมทางด้านนี้ยังมีธุระอยู่อีกนิดหน่อย แค่นี้ก่อนแล้วกันครับ”
เซียวฉางควนรีบถาม: “ลูกเขยคนดี เธอจะกลับมาเมื่อไหร่? เธอไม่อยู่บ้านฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว”
เย่เฉินกล่าว: “น่าจะใกล้แล้ว อีกสองวันมั้งครับ”
“ดี”เซียวฉางควนกล่าว: “รอเธอกลับมา พวกเราสองพ่อลูกไปหาที่นั่งจิบเบียร์ กันสักที่”
หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้: “ถ้าเป็นแบบนี้ คุณชายมีทุกอย่างเช่นวันนี้ได้ ไม่ใช่เป็นเพราะโชคอย่างแน่นอน แต่ถูกลิขิตเอาไว้ในชะตาอยู่แล้ว”
เย่เฉินกล่าว: “ก็ไม่ถือว่าถูกลิขิตเอาไว้ในชะตาหรอกมั้ง ถึงอย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นเส้นทางที่คุณพ่อของผมปูเอาไว้ให้ผม”
หลินหว่านเอ๋อร์ส่ายหน้ากล่าว: “ทุกอย่างที่คุณพ่อของคุณทำทั้งหมด แน่นอนว่าต้องสำคัญ แต่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่คุณได้รับ อาจจะเพราะโลกใบนี้ คนที่สามารถกระตุ้นได้ มีคุณชายเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ต่อให้คุณพ่อคุณไม่ได้จัดแจงไว้ให้ คุณชายก็จะต้องได้พบกับแจกันลายครามใบนั้นโดยบังเอิญ ในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง”
พูดไป หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างจริงจัง: “ถ้าหากสามารถตามหาตัวของโจวเหลียงเวิ่นจนเจอได้ ได้ถามต่อหน้าของเขา ก็คงจะดีกว่านี้”
เย่เฉินกล่าวอย่างหนักแน่น: “หา! จะต้องตามเขาเจออย่างแน่นอน! ผมคิดว่าช่วงระยะนี้จะไปที่สหรัฐอเมริกาก่อน ตามหาร้านของโบราณนี้ให้เจอ!”
หลินหว่านเอ๋อร์กล่สวเตือน: “ก่อนหน้าที่คุณชายสหรัฐอเมริกา จะต้องคุยกับพ่อบ้านถังสักหน่อยหรือไม่? เขาเป็นคนที่คุณพ่อของคุณชายจัดเตรียมเอาไว้เพื่อคุณชาย โจวเหลียงเวิ่นก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะรู้จักกัน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...