“แม่งเอ๊ย!”
มองเห็นเย่เฉินไม่เกรงกลัว กลับกันยังเอ่ยวาจาอย่างโอหัง คนดำคนนั้นโมโหเดือดดาลในทันใด!
เขาใช้ด้านล่างของปืน ฟาดไปทีเดียวทำเอาขวดเล็กขวดน้อยที่อยู่บนโต๊ะทั้งหมดร่วงลงบนพื้น หลังจากนั้นก็ยืนขึ้นมา ยืนตระหง่านนำเอาปากกระบอกปืนเล็งตรงมาที่ศีรษะของเย่เฉิน ด้วยสีหน้าอันชั่วร้ายด่าออกมา:“ไอ้คนหัวเซี่ย ที่นี่คืออเมริกา ประเทศสหรัฐอเมริกา!แกก่อเรื่องอยู่ที่นี่ คงไม่มีใครปล่อยให้แกกลับหัวเซี่ยไปได้หรอก ทว่าจะใช้ปืนยิงหัวแกจนพรุน!”
เย่เฉินยิ้มแย้มพูดออกมา:“คุณช่างโอหังเสียจริงนะ”
พูดจบ เย่เฉินก็เก็บรอยยิ้ม พูดออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า:“แต่ว่าผมไม่กลัวหรอก!”
คนคนนั้นกัดฟันกรอดพูดออกมา:“แม่งเอ๊ย แกมันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?”
เย่เฉินแบมือยกขึ้นมา พูดเบาๆว่า:“วันนี้ผมนั่งอยู่ที่นี่ ไม่สนว่าจะเป็นแองเจิ้ลแห่งเบริน์นิ่ง หรือว่าหมาเถื่อนแห่งเตาเผาศพ ขอเพียงกล้ามา ต่างต้องคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนกับผม《ยอมแพ้》!อ้อนวอนได้ดี ก็จะปล่อยชีวิตหมาตัวหนึ่งไป ;อ้อนวอนได้ไม่ดี ผมก็จะนำเอาหัวหมาของเขาเด็ดออกมา จากหัวซอยด้านตะวันออกของไชน่าทาวน์ ตลอดทางเตะไปยังหัวซอยด้านตะวันตกของไชน่าทาวน์”
พูดไป เย่เฉินมองใบหน้าเขาอย่างละเอียด ขมวดคิ้วเป็นปมพูดว่า:“หัวของคุณอันนี้ไม่ค่อยดี ยาวเกินทั้งแหลมเกิน ยิ่งเหมือนกับลูกรักบี้ หัวของคุณแบบนี้ ก็จะไม่สามารถแตะอย่างลูกบอลแบบนั้นได้ ทำได้เพียงอย่างลูกรักบี้เตะออกไปไกล ดังนั้นผมขอเก็บคำพูดในเมื่อสักครู่กลับพูดใหม่อีกครั้ง อีกสักครู่ถ้าอ้อนวอนไม่ดี ผมจะนำเอาหัวหมาของคุณเด็ดออกมา จากหัวซอยด้านตะวันออกของไชน่าทาวน์ ครั้งเดียวเตะออกไปยังหัวซอยด้านตะวันตกของไชน่าทาวน์!”
“แม่ง!”ทันใดนั้นคนคนนั้นระเบิดออกมา นิ้วมือของเขาเสียดสีแป้นเหนี่ยวไกอย่างต่อเนื่อง คนทั้งคนราวกับว่าบ้าคลั่งไปแล้วในพื้นที่สามเมตรซ้ายขวากระโดดไปกระโดดมา ในปากยังพูดอยู่อย่างนั้น:“ฉันจะฆ่าไอ้สารเลวคนนี้!ทันที!เดี๋ยวนี้!”
พูดไป เขาส่งสายตาไปให้คนที่เหลือที่ติดตามมาที่อยู่ด้านข้างแล้ว หลายคนเหล่านั้นได้สติและเข้าใจในทันที รีบหมุนตัวในทันใด นำเอาประตูใหญ่ร้านห่านตุ๋นจากด้านในปิดเอาไว้แน่นสนิท
เมื่อประตูใหญ่ปิดลง คนคนนั้นนำเอาปากกระบอกปืนเล็งมาที่กลางกระหม่อมของเย่เฉินอีกครั้ง พูดออกมาอย่างเย็นชา:“พวกแกคนหัวเซี่ยช่างชื่นชอบพุ่งชนปากกระบอกปืน ยังไงเสียพวกแกก็เป็นคนแบบนี้ ที่ฉันฆ่าไปก็ไม่ใช่แค่คนเดียวแล้ว จะเพิ่มอีกสักหนึ่งจะเป็นอะไรไป ดั่งเช่นตัวตลกแบบแก ฉันไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว!ยังมีอะไรสั่งเสียก่อนตายไหม พูดจบฉันก็จะส่งแกไปซะ!”
“คำสั่งเสียก่อนตาย?”เย่เฉินหัวเราะออกมาอย่างอดสู พูดออกมาอย่างเหยียดหยาม:“เศษสวะอย่างแกแบบนี้ เดิมทีฆ่าฉันไม่ได้หรอก”
พูดจบ ใบหน้าของเขายังแฝงไปด้วยรอยยิ้มบางๆเคาะลงบนโต๊ะแล้ว เอ่ยปากพูดออกมา:“เฉียงไจ่ ข้าวของผมล่ะ?”
เฉียงไจ่วิ่งออกมาจากหลังครัวอย่างกระวนกระวาย ในมือยังถือข้าวตุ๋นห่านอยู่ถ้วยหนึ่ง เอ่ยวาจาอย่างติดๆขัดๆ:“คุณเย่……ข้าวของคุณมาแล้ว……”
พูดไป รีบนำเอาข้าวตุ๋นห่านชุดนั้นมาวางไว้ที่ด้านหน้าของเย่เฉิน
ภายในใจของคนคนนั้นราวกับว่าทนไม่ไหวแล้ว ตัวเองต่างยิงปืนออกไปแล้ว แต่เย่เฉินยังคงเดิมไม่เกรงกลัวสักนิด นี่ทำให้ภายในใจของเขาเดือดดาลอยู่บ้างแล้ว ในขณะเดียวกันความคิดที่อยากจะฆ่าก็ตีขึ้นมาแล้ว
เขาอ้าปากกว้างอย่างเกินจริง กระพือริมฝีปากอันอวบหนา โมโหอย่างเหลือคณากัดฟันกรอดพูดออกมา:“ไอ้คนหัวเซี่ย!กระนั้นแกรนหาที่ตายเอง งั้นฉันก็จะส่งแกไปพบพระเจ้าซะ!”
พูดจบ เขาก็ออกแรงเหนี่ยวไกปืน!
เฉียงไจ่ตกใจกลัวจนหลับตาลง ทว่าเพื่อนร่วมทีมของคนดำคนนั้นก็รีบถอยกันออกไปหลายก้าว พวกเขามองออกถึงความอาฆาตในจิตใจของหัวหน้าแล้ว เวลานี้บนใบหน้าของคนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ กลัวว่าเลือดที่กระเด็นออกมาจะโดนตัว
ในขณะที่พวกเขาคิดกันไปเอง ในตอนที่เย่เฉินจะถูกยิงเข้าที่ศีรษะหนึ่งนัด คนดำคนนั้นกลับเบิกตากว้าง พร้อมทั้งออกแรงเหนี่ยวไกอย่างสุดชีวิต พร้อมทั้งพึมพำออกมา:“เกิดอะไรขึ้นกัน……มือของฉันทำไมเหนี่ยวไกไม่ได้……”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย เขาเพียงแค่ใช้ปราณทิพย์เพียงบางเบาแล้ว ก็เพียงพอที่จะสามารถยับยั้งพลังแห่งการต่อสู้ของอีกฝ่ายได้แล้ว เวลานี้มือของคนดำคนนั้น ไม่สามารถออกแรงได้แม้แต่นิดเดียว อย่าได้พูดถึงการเหนี่ยวไกปืนเลย แม้แต่ข้าวเม็ดเดียวก็ยังไม่สามารถบีบอยู่ได้
คนดำคนนั้นยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แขนของตัวเองยังมีกำลัง แต่ว่านิ้วมือทั้งห้าต่างไปไม่เป็นอย่างที่ต้องการ ในขณะที่เขาหวาดกลัวไม่ไหวแล้ว เย่เฉินได้ยื่นมือไปแย่งปืนที่อยู่ในมือของเขามาแล้ว เขามองดูปืนพกM9ที่ผลิตในอิตาลีแวบหนึ่ง พูดเบาๆว่า:“พระเจ้าถ้าอยากจะพบผมจริงๆ ก็ต้องเป็นเขาที่มาหาผม ทว่าไม่ใช่ผมไปหาเขา”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...