โอมาน ราโมวิชเองก็รู้ว่า เย่เฉินสามารถไว้ชีวิตตนได้ครั้งหนึ่งก็นับว่าเป็นการใช้ความดีตอบแทนความแค้น สถานการณ์แบบนี้ ตัวเลือกที่ดีที่สุดของตนคือไม่โลภมาก อย่าพยายามคิดที่จะขอร้องความเมตตาอีก ไม่อย่างนั้นถ้าหากเย่เฉินเปลี่ยนความคิด เป็นไปได้สูงที่ตนจะได้รับoffer(ข้อเสนอ)ที่แย่กว่านี้
ภายใต้ความจำใจ เขาจึงทำได้แค่เพียงกล่าวกับเย่เฉิน: “คุณเย่วางใจ ถึงซีเรียแล้ว ผมจะต้องพยายามร่วมมือกับจอมพลคามมิตเป็นอย่างดี พยายามใช้กำลังอันน้อยนิด......”
เย่เฉินพยักหน้าชมเชย กล่าวพร้อมรอยยิ้ม: “ไม่เลวไม่เลว คุณโอมาน ราโมวิชหากพูดตามภาษาของชาวหัวเซี่ยก็คือเข้ารูปเข้ารอย สังคมนี้ คนที่เข้ารูปเข้ารอยอย่างแท้จริงมีไม่มากแล้ว”
พูดจบ เขามองเวลา กล่าวกับว่านพั่วจวิน: “พั่วจวิน ฟ้าสว่างแล้ว คนก็ทยอยมาถึงกันพอประมาณแล้ว ติดต่อเรือให้เรียบร้อย จากนั้นขึ้นไปฉีดยายากระตุ้นสักโดสให้พวกที่อยู่ชั้นบน นายก็สามารถพาพวกเขาเดินทางออกจากสหรัฐอเมริกาได้แล้ว”
ว่านพั่วจวินพยักหน้าอย่างนอบน้อม ถามเย่เฉิน: “คุณเย่ รายละเอียดวิธีการฉีดยากระตุ้นเป็นยังไง คุณพอมีคำชี้แนะคร่าวๆไหมครับ?”
เย่เฉินยื่นนิ้วมือหนึ่งออกไป กล่าวอย่างจริงจัง: “ผมมีข้อเรียกร้องข้อเดียว ทำให้พวกมันตกใจ ให้พวกมันที่ไม่ว่าจะถูกนายพาตัวไป หรือให้อยู่ที่นี่ ให้ตื่นกลัวตลอดทั้งวัน ตั้งแต่หลังจากที่เริ่มเห็นหน้านาย ”
ว่านพั่วจวินเข้าใจโดยไม่ต้องพูด รีบกล่าว: “คุณเย่วางใจ กระผมจะจัดการให้เรียบร้อย!”
จากนั้น เย่เฉินให้อันโตนิโอจับราวบันไดขึ้นไปเอง กระโดดอยู่ด้านหน้าขึ้นไปถึงที่ชั้นสองก่อน
แต่เขากับว่านพั่วจวิน เดินตามอยู่ด้านหลังอย่างไม่รีบไม่ร้อน
สมาชิกแก๊งเหล่านั้นที่ชั้นบนในเวลานี้ ภายในใจเต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่ออันโตนิโอ
การเผชิญกับสายตาที่โกรธแค้นและสงสัยของคนพวกนี้ ในใจของอันโตนิโอก็ค่อนข้างเป็นกังวล คนที่ตรงนี้ครึ่งหนึ่งจะต้องไปที่ซีเรียกับตนเอง ต่อไปทุกคนจะต้องเจอกันบ่อยๆ อีกทั้งตนก็ไม่ได้มีการคุ้มครองแล้ว ยังขาขาดอีกข้างหนึ่ง ถ้าหากถูกพวกเขาร่วมมือกันรังแก เกรงว่าจะต้องขอความช่วยเหลือไม่ได้อย่างแน่นอน
คนพวกนี้ใช้สายตาโกรธแค้นมองอันโตนิโอ กระโดดแล้วกระโดดอีก หลังจากกระโดดอยู่ค่อนวัน หัวถึงค่อยๆกระโดดออกมาจากช่องของบันไดตรงนั้น
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะสงสัย ไม่เข้าใจว่านี่เขากำลังจะทำอะไรกันแน่
แต่ตอนที่อันโตนิโอออกแรงกระโดดเอาอีกครึ่งตัวที่เหลือออกมาได้ในที่สุด ทุกคนถึงได้เข้าใจ ที่แท้ขาของเขาขาดไปข้างหนึ่ง
สิ่งที่ประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ เขาไม่เพียงขาขาดเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยเท่าไหร่อีกด้วย ตรงที่เป็นแผลยังเป็นสีแดงอยู่ มองดูไปน่าตกใจ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...