อันโตนิโอในเวลานี้ไม่เหลืออำนาจและท่าทางความเป็นหัวหน้ามาเฟียอีกแล้ว
เพื่อที่จะพยายามลดความเคียดแค้นของคนพวกนี้ที่มีต่อตนเองให้เบาลง หลังจากที่เขาออกแรงกระโดดขึ้นชั้นสอง เรื่องแรกที่ทำก็คือรีบถอดหมวกที่ตนสวมออก
ขาข้างนี้ยังไม่เท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้คนอื่นๆตกใจจนพูดไม่ออกก็คือ เป็นเพราะพวกเขาเห็นว่าหูทั้งสองข้างของอันโตนิโอไม่มีแล้ว เหลือเอาไว้เพียงแค่รอยแผลที่ยังมีเลือดอาบเท่านั้น
มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าอันโตนิโอจะต้องได้รับการทรมานอย่างไม่ใช่คน ดังนั้นภายในใจของทุกคนจึงเข้าใจ อันที่จริงวันนี้คนที่หลอกตนมาที่นี่แล้วจับตัวเอาไว้ คือคนอื่น
ในตอนนี้เอง เย่เฉินกับว่านพั่วจวินสาวเท้าเดินขึ้นบันไดหน้าคนหลังคน
คนเหล่านี้เคยเจอกับเย่เฉินที่ชั้นหนึ่งก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่มีใครรู้ ว่าเย่เฉินจะทำอะไรกันแน่
และหลังจากที่เย่เฉินเดินขึ้นมามองทุกคนไปรอบๆ ประโยคแรกที่พูดออกมาก็คือ: “วันนี้ที่เชิญทุกคนมา อยากจะคุยถึงปัญหาการแบ่งเขตอำนาจรวมทั้งการแบ่งสันกำไรของแก๊งในนครนิวยอร์ก เนื่องจากคนที่มาค่อนข้างมาก ดังนั้นฉันจะไม่ให้โอกาสทุกคนได้แสดงความคิดเห็นทีละคน พวกเรามาเข้าสู่ประเด็นหลักเลยดีกว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แก๊งของพวกนายทุกคนจะต้องรายงานการทำงานให้แก๊งคนเชื้อสายจีน นอกจากนี้ รายรับสุทธิทั้งหมด75%ของพวกนายจะต้องส่งมอบให้ถึงมือของแก๊งคนเชื้อสายจีนทุกอาทิตย์”
ทันทีที่เย่เฉินพูดประโยคนี้ออกไป ทุกคนตรงนั้นต่างพากันเบิกตาโต ถึงแม้ว่าในปากของทุกคนจะมีผ้าขี้ริ้วเหม็นยัดเอาไว้ แต่มองออกว่า สีหน้าของพวกเขาในเวลานี้เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ช่วงระยะนี้อันโตนิโอกำลังให้เบิร์นนิ่งโรสแย่งอาณาเขตไชน่าทาวน์ของแก๊งคนเชื้อสายจีน เรื่องนี้แก๊งอื่นค่อนข้างเข้าใจชัดเจนดี อีกทั้งในมุมมองของพวกเขา แก๊งคนเชื้อสายจีนแทบจะไม่มีความสามารถในการต่อต้านใดๆ
ต่อให้วันนี้เย่เฉินฆ่าอันโตนิโอทิ้งต่อหน้าพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีทางสวามิภักดิ์ต่อเย่เฉินด้วยใจจริง อย่างมากสุดก็แค่ยอมโอนอ่อนแค่เปลือกนอกเท่านั้น เรื่องแรกที่จะทำหลังจากมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ ก็คือพาพี่น้อง พาสหายกลับมาฆ่า นำเย่เฉินสับเป็นหมื่นๆชิ้น
อีกทั้งเย่เฉินเองก็พูดแล้ว ต่อไปให้พวกเขาสวามิภักดิ์ต่อแก๊งคนเชื้อสายจีน จ่ายค่าคุ้มครองให้แก๊งคนเชื้อสายจีน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าพวกเขาสามารถออกจากที่นี่แบบมีชีวิตอยู่ได้
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ยังมีอะไรที่ต้องกลัวอีก? รอมีโอกาสกลับมาฆ่าก็พอแล้ว
ดังนั้น การเผชิญหน้ากับเงื่อนไขที่เย่เฉินเสนอ พวกเขาแต่ละคนเยาะเย้ยภายในใจ ประกอบกับปากที่โดนอุดอยู่ ดังนั้นทุกคนจึงแกล้งโง่ไปเสียเลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...