เวลาฟ้าสางของนครนิวยอร์ก ว่านพั่วจวินกับลูกน้องของเขา นำตัวโอมาน ราโมวิช อันโตนิโอ รวมทั้งหัวหน้าแก๊งภายใต้สังกัดตระกูลซาโน่ออกจากไชน่าทาวน์ มุ่งหน้าไปที่ท่าเรือ
รองหัวหน้าที่เหลือเหล่านั้น ทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์
เฉียงไจ่ยังมีความเหม่อลอยอยู่เล็กน้อย ถึงแม้ว่าได้เห็นเย่เฉินจัดการตระกูลซาโน่ทั้งหมดภายในคืนเดียวแล้ว แต่เขายังคงมีความรู้สึกล่วงตาไม่เป็นความจริงเท่าไหร่
เย่เฉินเห็นว่าทุกอย่างจบลง เฉียงไจ่กลับยังมีความรู้สึกงุนงงเล็กน้อย จึงเอ่ยปากถามเขา: “เฉียงไจ่ ตอนนี้นายรู้สึกยังไง?”
เฉียงไจ่ได้สติกลับคืนมา เกาหัวกล่าว: “คุณเย่......ผมรู้สึก......รู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่ออยู่หน่อยๆ......”
เย่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม: “ถ้าอย่างนั้นนายรีบปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เร็วหน่อย เนื่องจากนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายก็จะต้องสร้างแก๊งคนเชื้อสายจีนขึ้นมาใหม่ ถึงแม้ว่าตระกูลซาโน่จะเป็นแก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในนครนิวยอร์ก แต่ไม่ใช่เพียงหนึ่งเดียว ในภายภาคหน้านายยังจะต้องถูกท้าทายอีกค่อนข้างมาก ในเมื่อนายเลือกเส้นทางนี้เอง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องคิดหาหนทางเดินไปบนเส้นทางนี้ให้ได้ไกลกว่าเดิม”
เฉียงไจ่พยักหน้าซ้ำๆ กล่าวอย่างนอบน้อม: “คุณเย่ ต่อไปแก๊งคนเชื้อสายจีนจะคิดหาหนทางยืนด้วยลำแข้งของตนเอง กำไรที่แก๊งเหล่านั้นจ่ายมา ผมจะส่งมอบให้คุณตามจำนวนเดิมทุกเดือน!”
เย่เฉินโบกมือ: “เงินส่วนมากของพวกเขาล้วนได้มาจากการรังแกและกดขี่คนทั่วไป ฉันรังแกและกดขี่พวกเขาอีกที นำเงินเหล่านี้มาไว้ในมือฉัน ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ต่างอะไรจากพวกเขาเลย”
พูดไป เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ลุงโจงเห็นนายเป็นเหมือนลูกชาย ฉันกับนายก็นับว่าโชคชะตาต่อกัน ในเมื่อนายเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเงินก้อนนี้นายก็เก็บเอาไว้อย่างมั่นคงปลอดภัย ถ้าหากนายมีความมุ่งมาดปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ก็ใช้เงินก้อนนี้ทำให้แก๊งคนเชื้อสายจีนพัฒนาอย่างใหญ่โตและแข็งแรง แล้วค่อยปูทางให้ตนเองให้เรียบร้อยก่อนล่วงหน้า ถ้าอย่างนั้นละก็ เมื่ออายุมากขึ้น นายก็สามารถปลีกตัวไปเป็นผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงได้ หรือว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปเลยก็ได้ ถ้าหากนายไม่มีความมุ่งมาดปรารถนาอันยิ่งใหญ่ หาเงินเก็บเอาไว้ในมือให้มากหน่อย ก็มีกินมีใช้ไปชั่วชีวิตนี้แล้ว”
เย่เฉินกล่าว: “นายเป็นคนจีน เป็นสมาชิกแก๊งคนเชื้อสายจีน ทั้งยังปิดบังเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในไชน่าทาวน์ อยู่ที่นี่ นายก็คือตัวแทนของชาวจีนทั้งหมดที่ทำมาหาเลี้ยงชีพอยู่ในไชน่าทาวน์ ดังนั้น ต่อไปนายอย่าได้หวาดกลัวขนาดนี้อีก เรื่องจริงได้พิสูจน์แล้วว่า ในอุตสาหกรรมนี้ของพวกนาย ความหวาดกลัวไม่สามารถปกป้องความปลอดภัยได้ นายยิ่งกลัว คนที่อยากจะกดขี่ข่มเหงก็ยิ่งเยอะ”
หนี่ต้าเหว่ยรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก ก้มหน้ากล่าว: “ที่คุณเย่พูดมาก็ถูก......หลังจากวันนี้เป็นต้นไป ผมจะให้ความร่วมมือกับพี่เฉียงอย่างเต็มความสามารถ จะไม่ให้ชาวจีนต้องขายหน้าอีก!”
เย่เฉินพยักหน้า กล่าวอย่างจริงจังเป็นอย่างยิ่ง: “ตอนผมเป็นเด็กก็เคยได้ยินเรื่องเล่าที่แก๊งคนเชื้อสายจีนไปพัฒนาเติบโตที่เมืองนอก ตอนนั้น สมาชิกแก๊งคนเชื้อสายจีนกล้าตีรันฟันแทง ที่แคนาดา ที่สหรัฐอเมริกาแม้กระทั่งที่ทวีปยุโรป สร้างรากฐานกิจการเอาไว้ไม่น้อย แต่ผมคิดไม่ถึงเลยว่า เข้าสู่ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด แก๊งคนเชื้อสายจีนแต่ละพื้นที่จะถดถอยรวดเร็วขนาดนี้ มีจำนวนมากที่ได้หายสาบสูญไปแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ก็ทำได้เพียงหดตัวอยู่ในไชน่าทาวน์เอาชีวิตรอดไปวันๆ คุณรู้ไหมว่านี่เป็นเพราะอะไร?”
หนี่ต้าเหว่ยกล่าวอย่างละอาย: “หลายปีมานี้.......การโจมตีของแก๊งในยุโรปและอเมริการุนแรงขึ้นเรื่อยๆจริงๆ อีกทั้งระดับความสามัคคีในหมู่เพื่อนร่วมชาติที่อยู่ต่างประเทศ ยังด้อยกว่าคนเกาหลี คนเวียดนาม ดังนั้นโดยรวมแล้วยากกว่ามากจริงๆ......”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ทำไมตอนซ้ำเยอะ ตอนก้ขาดหาย...
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...