ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับเย่เฉิน: “คุณชาย เรือนจำของสหรัฐอเมริกาสามารถโทรศัพท์หาโลกภายนอกได้ คุณมีความต้องการอะไรต้องการให้ผมทำ ติดต่อผมได้ทุกเมื่อ”
“ดี”
......
ทั้งสองคนกินข้าวเช้าแล้ว เย่เฉินจึงขับรถมาที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงของนครนิวยอร์กก่อน
เนื่องจากวันนี้ตนต้องไปเรือนจำบรูคลิน ดังนั้นเขาจึงให้ครช่วยจัดเตรียมห้องซูพีเรียให้เฉินจ้างโจงห้องหนึ่ง ทั้งสองคนพักอยู่ในห้องครู่หนึ่ง เย่เฉินก็ได้รับโทรศัพท์ที่เฟ่ยเข่อซินโทรเข้ามา
ในสาย เฟ่ยเข่อซินถามเย่เฉิน: “คุณเย่ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ฉันจัดการเรื่องเกือบจะเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากคุณสะดวกละก็ ตอนนี้ฉันออกมาพบหน้าคุณสักเดี๋ยว บอกรายละเอียดของเรื่องราวให้คุณฟังสักหน่อย”
เย่เฉินกล่าว: “ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง คุณตรงมาที่นี่ได้เลย”
หลังจากสิบนาที เฟ่ยเข่อซินรีบเดินทางมา
ทันทีที่เจอหน้า เธอก็กล่าวกับเย่เฉินอย่างนอบน้อม: “คุณเย่ ตัวตนของคุณฉันได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”
พูดไป เธอควักพาสปอร์ตเล่มหนึ่งออกมา ยื่นมาให้เย่เฉินกล่าว: “นี่คือตัวตนของมาเลเซีย คุณสามารถบอกกับคนอื่นว่าตัวเองเป็นชาวจีนโพ้นทะเลมาเลเซีย ตัวตนไม่มีการบันทึกเข้าประเทศของสหรัฐอเมริกา ถ้าเป็นแบบนี้ ก็สามารถเพิ่มความปลอดภัยให้ตัวตนนี้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงถูกคนที่มีแผนร้ายสืบเจอช่องโหว่”
เย่เฉินพยักหน้า ถาม: “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมสามารถเข้าไปที่เรือนจำบรูคลิน?”
“ใช่ค่ะ”เฟ่ยเข่อซินพยักหน้ากล่าว: “เมื่อครู่นี้ฉันถามภายในตระกูลเฟ่ยดูแล้ว ในเรือนจำบรูคลิน พวกเราสามารถตามหาคนที่เหมาะสมคนหนึ่งได้ เขาเป็นผู้รับผิดชอบเรือนจำบรูคลินแดนหนึ่ง สามารถช่วยให้คุณเสร็จสิ้นกระบวนการเข้าเรือนจำได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่าทั่วทั้งเรือนจำบรูคลิน อันที่จริงมีตระกูลรอธส์ไชลด์เป็นผู้ควบคุมทั้งหมด ด้านในส่วนใหญ่ล้วนเป็นหูตาของพวกเขา ฉันเกรงว่าจะแหวกหญ้าให้งูตื่น ดังนั้นจึงไม่ได้ให้คนไปสอบถามเรื่องที่เกี่ยวกับปีเตอร์ โจวคนนั้น แต่ว่าถ้าหากคุณต้องการละก็ ฉันสามารถให้คนลองไปถามดูได้”
เย่เฉินส่ายหน้ากล่าว: “ยังไงไม่ต้องสืบข่าวหรอกครับ เพื่อหลีกเลี่ยงแผนรั่วไหล”
เฟ่ยเข่อซินถามอีกว่า: “ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้คุณตั้งใจว่าเข้าไปนานแค่ไหน? ถ้าหากคุณจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเตรียมตัวจะออกมา สามารถโทรบอกฉันได้ทุกเมื่อ ฉันจะคนของกองตรวจคนเข้าเมืองไปรับคุณออกมา ถึงเวลาจะบอกกับทางเรือนจำว่าจะส่งคุณกลับมาเลเซีย เรื่องนี้ก็จะไม่ทำให้คนอื่นเกิดความสงสัย”
เย่เฉินกล่าว: “ตอนนี้ยังไม่มั่นใจว่าจะต้องอยู่นานแค่ไหน รอหลังจากจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยค่อยว่ากัน ตอนนี้เวลาไม่เช้าแล้ว กองตรวจคนเข้าเมืองจับคนค่อยส่งไปที่เรือนจำ ก็ยังต้องมีขั้นตอนบางอย่างที่ต้องดำเนินการ คุณหนูเฟ่ยตอนนี้จัดการให้คนของกองตรวจคนเข้าเมืองทางด้านนั้นเตรียมตัวลงมือเถอะครับ ผมจะไปรอพวกเขามาจับผมที่ไชน่าทาวน์”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...