เวลาเที่ยงวัน ตอนที่เย่เฉินนั่งกินข้าวอยู่ภายในร้านอาหารเสฉวนร้านหนึ่งที่ไชน่าทาวน์คนเดียว รถตำรวจของกองตรวจคนเข้าเมืองสองคันมีสัญญาณไฟกระพริบแบบไร้เสียง จอดที่หน้าร้านอาหารกระทันหัน
เย่เฉินเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาแต่แสร้งทำเป็นไม่มีอะไร ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป
เวลานี้ ตำรวจสองสามนายพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ถือรูปใบหนึ่งเอามาเทียบกับคนในร้านอาหาร ทันใดนั้นก็พุ่งเข้ามาที่ด้านหน้าของเย่เฉิน กล่าวถามเสียงดัง: “นายคือเย่เฉินที่มาจากมาเลเซียลักลอบเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาใช่ไหม?”
เย่เฉินเงยหน้าขึ้น ส่ายหน้าไปมาอย่างบริสุทธิ์: “ไม่ใช่......”
ตำรวจคนนั้นเทียบความถูกต้องของรูปอีกครั้ง จากนั้นแค่นเสียงหัวเราะ กล่าวกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกาย: “เป็นเขา เอาตัวไป!”
ทันทีที่เสียงพูดจบลง ตำรวจสองสามนายก็พุ่งเข้ามา นำแขนสองข้างของเย่เฉินไพล่ไว้ด้านหลัง ถือโอกาสใส่กุญแจมือให้เขา
เย่เฉินแสร้งทำเป็นขัดขืนสองสามที หลังจากที่อีกฝ่ายทำท่าจะชักปืนออกมา เขาก็รีบทำตัวว่านอนสอนง่ายไม่พยายามขัดขืนอีก
ทันทีหลังจากนั้น ตำรวจใส่กุญแจมือให้เขา พาออกจากร้านอาหาร ยัดเข้าไปด้านหลังรถตำรวจคันหนึ่งในนั้น
รถตำรวจร้องดังไปตลอดทาง มุ่งหน้าตรงไปยังกองตรวจคนเข้าเมือง
ตำรวจในเวลานี้ไม่รู้สถานการณ์ใดใดของเย่เฉิน พวกเขารู้เพียงแค่เบื้องบนแจ้งพวกเขามาว่าขจ มีชาวมาเลเซียผู้อพยพผิดกฎหมายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักขโมยหลายครั้งปรากฏตัวที่ร้านอาหารร้านหนึ่งในไชน่าทาวน์ ให้พวกเขารีบไปจับกุมตัวเอาไว้
หลังจากที่นำตัวเย่เฉินกลับกองตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้ริบพาสปอร์ตมาเลเซียบนตัวเขา รวมทั้งโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าที่ไม่มีมูลค่ากับเงินสดสองร้อยกว่าดอลลาร์
หลังจากที่ตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลประจำตัวบนพาสปอร์ตแล้ว กองตรวจคนเข้าเมืองยืนยันตัวตนเย่เฉินเข้าชาวมาเลเซียเมืองผิดกฎหมาย
เย่เฉินขมวดหว่างคิ้ว: “นายเดินเท้าเข้ามา ตามหลักแล้วน่าจะไปลอสแองเจลิส ที่นั่นห่างจากเม็กซิโกหน่อย ทำไมถึงมาที่นครนิวยอร์กละ?”
ชายหัวเกรียนตบต้นขา: “พี่ชายพี่ก็เข้าใจการเดินทางนี่! พี่ก็เดินเท้าเข้ามาเหมือนกันเหรอ?”
เย่เฉินส่ายหน้า: “ผมนั่งเรือมา”
ชายหัวเกรียนผิดหวังเล็กน้อย กล่าวอย่างทอดถอนใจ: “ยังไงพวกพี่นั่งเรือมาก็ดีกว่าอยู่แล้ว นั่งเรือจากบ้านเกิด แล่นมาสักสองสามเดือนก็ถึงแล้ว ไม่เหมือนพวกเราที่เดินเท้ามาฌภ ตลอดเส้นทางมานี้ โคตรจะลำบากเลย พี่พูดอย่างไม่โอ้อวด ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต”
ในเวลานี้ ในฝูงชนมีคนกล่าวพึมพำ: “นั่งเรือดีกับผีซิ เดินเท้าอย่างน้อยก็ได้ยืนอยู่บนพื้นดิน นั่งเรือจนถึงหนึ่งกิโลเมตรสุดท้ายต้องอาศัยการว่ายน้ำ พวกเราเรือลำเดียวกันมีหกสิบกว่าคน ได้ขึ้นฝั่งก็ประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือไม่รู้ว่าถูกคลื่นซัดไปที่ไหนแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...