ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5999

เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะถามเขา“หากเป็นอย่างที่พูด ซื่อฟางเป่าจ้วงที่อยู่ในมือของราชวงศ์ชิง ก็ย่อมต้องเป็นสมบัติของประเทศ แล้วไปตกอยู่ในมือของตระกูลรอธส์ไชลด์ได้ยังไงครับ ？”

โจวเหลียงเวิ่นถอนหายใจ แล้วพูดว่า“ในปี1840 รัฐบาลอังกฤษได้เปิดสงครามฝิ่นในหัวเซี่ย ระดมคนทั้งประเทศกดราคาฝิ่นกับหัวเซี่ยและทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหลังจากที่บังคับให้ราชสำนักชิงเปิดประเทศแล้ว ตระกูลรอธส์ไชลด์ก็เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจฝิ่นในหัวเซี่ย จากนั้น พวกเขาก็ควบคุมธุรกิจฝิ่นในหัวเซี่ยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตระกูลรอธส์ไชลด์ก็ได้ขนส่งฝิ่นจำนวนมากมาที่หัวเซี่ย ในขณะที่ก็นำเอาเงินทองของหัวเซี่ย ใบชาและโบราณวัตถุที่ล้ำค่าต่างๆจากหัวเซี่ยขนกลับไปยุโรป”

“การปล้นสะดมแบบนี้ ถึงจุดสูงสุดในช่วงพันธมิตรแปดชาติประกอบไปด้วย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย ญี่ปุ่น ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลีรวมพันธมิตรแปดกองทัพ ปล้นฆ่าเผาไหม้ที่เย่นจิง ก่อการจลาจลทุกอย่าง และของล้ำค่าของหัวเซี่ยนับไม่ถ้วนถูกพวกเขาแย่งชิงและทำลาย สมบัติประจำชาติที่แย่งชิงไปเหล่านั้น ปลายทางที่ใหญ่ที่สุดมีสองแห่ง หนึ่งคือรัฐบาลอังกฤษ และสองคือตระกูลรอธส์ไชลด์ ”

พูดมาถึงตรงนี้ โจวเหลียงเวิ่นก็สบถด้วยความแค้นเคือง“มาในตอนนี้ ที่พิพิธภัณฑ์ต้าอิงมีโบราณวัตถุของหัวเซี่ยมากกว่าสองหมื่นชิ้น ทุกชิ้นล้วนตักตวงและแย่งชิงมาจากหัวเซี่ยในตอนนั้น และโบราณวัตถุของหัวเซี่ยที่ตระกูลรอธส์ไชลด์ถือครองอยู่ เมื่อเทียบกับพิพิธภัณฑ์ต้าอิงแล้ว มีมากกว่าด้วยซ้ำ ก่อนหน้านั้นผมแค่เคยได้ยินมาเท่านั้น แต่ผมไม่คิดว่า ตำนานซื่อฟางเป่าจ้วงที่พูดถึง จะอยู่ในมือของพวกเขาด้วย！”

พูดจบ โจวเหลียงเวิ่นก็พูดต่อ“ซื่อฟางเป่าจ้วง ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ สามารถจะรักษาสมบัติฮวงจุ้ยขออาณาจักร ผมกับพ่อของคุณเคยได้ศึกษาอี้จิงฮวงจุ้ย ในเชิงลึกมาก่อน ตามบันทึกของโจวอี้ หากอยากจะสร้างเครื่องภัณฑ์สำคัญของประเทศอย่างสมบัติฮวงจุ้ย ต้องได้รับการปลุกเสกจากปรมาจารย์โจวอี้นับไม่ถ้วน และต้องใช้ความพยายามอย่างนับไม่ถ้วนถึงจะสำเร็จ เพียงแค่พลังของฮวงจุ้ยนี้จะค่อยๆอ่อนลงตามกาลเวลา จนเมื่อสิ้นสุดราชวงศ์ชิง พลังเวทนี้ก็ไม่เพียงพอที่จะปกป้องอาณาจักรของราชวงศ์ชิงได้อีกต่อไป”

“ทว่า ซื่อฟางเป่าจ้วงนี้อยู่ในมือของตระกูลรอธส์ไชลด์มาหลายร้อยปี และหลายปีมานี้ตระกูลของพวกเขาก็เจริญรุ่งเรือง อยู่เหนือผู้คน เกรงว่าคงมีความเกี่ยวข้องกับซื่อฟางเป่าจ้วงนี้”