เย่เฉินกล่าวอย่างไม่แยแส: “ทุกคนก็โตๆ กันหมดแล้ว เรื่องประจบสอพลอแบบนี้ก็ไม่ต้องประจบแล้ว”
พูดไป เย่เฉินควักโทรศัพท์มือถือของตนเอง ออกจากจากในกระเป๋าเสื้อของตน พลางกดอย่างสบายๆ บนหน้าจอทีหนึ่ง พลางกล่าวเรียบ ๆ : “ใช่แล้ว ลืมบอกนายไป นับตั้งแต่วินาทีที่ฉันเข้ามาจนถึงตอนนี้ โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้บันทึกเสียงเอาไว้ตลอด เรื่องทั้งหมดที่พวกเราคุยกัน ถูกมันบันทึกเอาไว้หมดแล้ว”
สีหน้าของสตีฟทั้งตกใจทั้งหวาดกลัวทันที กล่าวอย่างหวาดกลัว: “คุณเย่ ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย หรือว่าคุณยังไว้ใจผมงั้นเหรอ?”
เย่เฉินยิ้ม กล่าว: “ผมรู้ว่าที่นี่มีสมาชิกคนสำคัญของตระกูลรอธส์ไชลด์ ดังนั้นก็อยากจะบันทึกวิดีโอเอาไว้สักหน่อย”
สตีฟเศร้าซึมลงไปไม่น้อย เขาคิดไม่ถึงว่า ขั้นตอนที่ตนกับเย่เฉินบรรลุความร่วมมือกันจะถูกเย่เฉินบันทึกเอาไว้หมด ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ ก็เท่ากับว่าตนมีจุดอ่อนอย่างหนึ่งในมือของเย่เฉิน
ทันทีที่เย่เฉินนำซื่อฟางเป่าจ้วงออกจากสหรัฐอเมริกา ในเวลาเดียวกันเพื่อกำจัดวิกฤตของตน แล้วก็คว้าจุดตายของตัวเองไว้เช่นเดียวกัน ถ้าหากเขานำวิดีโอเผยแพร่ออกมา ทำให้คุณพ่อรู้ว่าเป็นตนเองที่ปล่อยซื่อฟางเป่าจ้วงหลุดมือไป ถึงขนาดเป็นตนที่ช่วยเหลือเย่เฉินให้นำซื่อฟางเป่าจ้วงออกนอกประเทศไป เขาจะต้องกำจัดตนทิ้งอย่างแน่นอน
ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ ไม่ใช่ว่าตนจะต้องถูกเย่เฉินควบคุมตลอดไปงั้นเหรอ?
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ อันที่จริงเย่เฉินไม่ได้บันทึกเสียงเอาไว้ตั้งแต่แรก
เขาเพียงแค่แต่งเรื่องโกหกขึ้นมาเพื่อขู่ขวัญสตีฟเท่านั้น ถือโอกาสตอนที่ควักโทรศัพท์มือถือออกมา แอบเปิดเครื่องบันทึกเสียง
ดังนั้น เขาจงใจกล่าวกับสตีฟ: “แต่ว่านายวางใจ ในเรื่องทุกคนตัดสินใจที่จะร่วมมือกันแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมไม่มีทางขายคุณอย่างไม่มีสาเหตุหรอก ขอเพียงแค่คุณช่วยผมนำซื่อฟางเป่าจ้วงออกไปจากสหรัฐอเมริกา ตำแหน่งผู้สืบทอดของคุณก็จะไม่มีทางรับการคุกคามอีก และผม จะต้องรักษาความลับเรื่องนี้เอาไว้ให้คุณอย่างแน่นอน”
“ถึงแม้ว่าตระกูลเย่จะมีปัญหาบางอย่างกับพวกคุณในตอนนั้น แต่มีความร่วมมือของพวกเราในครั้งนี้ พวกเราทั้งสองฝ่ายก็นับว่ามีโอกาสที่จะละลายพฤติกรรม เมื่อคุณท่านใหญ่คนนายตายไปแล้ว นายก็จะขึ้นเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลรอธส์ไชลด์ได้อย่างราบรื่น บางทีพวกเราอาจจะยังมีความร่วมมือที่ลึกซึ้งกันอีกมากมาย มีประโยคที่ว่า มีเพื่อนร่วมฝ่าฟันไปด้วยกันตลอดไป ถึงแม้ว่านายจะอายุมากไปหน่อย แต่ว่ามีชีวิตอยู่อีกสามถึงห้าสิบปีก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แน่นอน ทุกคนคบค้าสมาคมกันไว้ ยังสามารถเป็นเพื่อนกันไปได้อีกสามถึงห้าสิบปี ใช่ไหม?”
สตีฟรู้ที่ไหนกันว่าเย่เฉินกำลังถ่ายวิดีโอเอาไว้ ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ในใจก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เขาเข้าใจดีว่า ในเมื่อจุดอ่อนอยู่ในมือของเย่เฉิน ถ้าอย่างนั้นเย่เฉินจะเปิดโปงออกไปหรือไม่นั่น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าตนเชื่อฟังหรือไม่
ตอนนี้ ชีวิตน้อยๆ ของตนอยู่ในกำมือเขา
ในอนาคต จุดอ่อนของตนก็อยู่ในกำมือเขาเช่นกัน
ดูท่า นี่จะถูกลิขิตเอาไว้คงว่าหนีไม่พ้นแล้ว
แต่ว่า สตีฟก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน
เขาทำความเข้าใจความมีส่วนได้ส่วนเสียในนี้อย่างรวดเร็ว
ตนในฐานะที่เป็นผู้สืบทอด ทุกก้าวเหมือนเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ ทันทีที่จุดอ่อนถูกเปิดโปง ตำแหน่งผู้สืบทอดก็จะหายไปทันที จะต้องถูกส่งตัวเข้าไปในตำหนักอย่างแน่นอน
แต่ว่า ทันทีที่คุณท่านใหญ่ตาย ตนเองก็จะสืบทอดตำแหน่งได้อย่างราบรื่น ถ้าอย่างนั้นจุดอ่อนอันนี้ก็จะเหลือเพียงแค่ผลกระทบทางด้านศีลธรรมเท่านั้น
เมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้เย่เฉินเปิดโปง อย่างมากสุดตนก็แค่ขายขี้หน้า ถูกด่า แต่ว่าตำแหน่งผู้นำตระกูลได้นั่งอย่างมั่นคงแล้ว ถูกด่าประโยคสองประโยคก็ไม่รู้สึกรู้สา
ภายในใจของเย่เฉินมีความเจ้าเล่ห์ ถามเขาอย่างจงใจ: “สตีฟ ฉันอยากรู้ว่า จริง ๆ แล้วเป็นเพราะอะไรกันแน่ถึงทำให้นายตัดสินใจกระทำการจัดการกับญาติพี่น้องด้วยกฎหมายแบบนี้?”
“คือความเป็นธรรม!”
สตีฟผู้ปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดอย่างแรงกล้า กล่าวอย่างชอบธรรมขึงขัง: “แน่นอนว่าเป็นเพราะความเป็นธรรมที่หนักแน่นในใจของผม! คุณเย่ ผมเป็นคนที่มีสัญชาติญาณ! ซื่อฟางเป่าจ้วงเดิมทีก็เป็นสมบัติของชาติของหัวเซี่ย ถูกรอธส์ไชลด์แย่งชิงกลับมาจากหัวเซี่ยเป็นเวลาเกือบสองร้อยปีแล้ว! ผมในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลรอธส์ไชลด์ รู้สึกละอายใจและไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งกับเรื่องนี้! ถ้าหากตัวข้าพเจ้าเองสามารถช่วยเรื่องการนำซื่อฟางเป่าจ้วงกลับคืนสู่หัวเซี่ยอย่างเต็มที่ ถ้าอย่างนั้นผมก็นับว่าไม่ละลายใจต่อมโนธรรมของตนเอง!”
“ไม่เลวไม่เลว!” เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม: “สตีฟ ผมมองคุณไม่ผิดไปจริง ๆ คุณเป็นคนมีคุณธรรมของตระกูลรอธส์ไชลด์จริง ๆ! ถ้าหากในภายภาคหน้าคุณได้กลายเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลรอธส์ไชลด์ ตระกูลเย่ก็คือหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของนาย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...