บทที่ 81 มาขอโทษถึงที่
เมื่อทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน ผู้หญิงทั้งสองคนของบ้านต่างก็ไม่อยู่
แม่บุญธรรมหม่าหลันไปเล่นไพ่นกกระจอกที่ห้องหมากรุกยังไม่กลับมา ส่วนเซียวชูหรันเองก็ยังไม่เลิกงาน
ด้วยเหตุนี้ เย่เฉินจึงกลับไปที่ห้องนอนก่อน เขาหยิบเอาไม้ฟาดสายฟ้าออกมาจากกล่อง
เรกิที่แข็งแกร่งแผ่ออกมาจากไม้ฟาดสายฟ้า
เย่เฉินนักขัดสมาธิบนพื้น พร้อมกับนำไม้ฟาดสายฟ้าวางไว้บนฝ่ามือ ดวงตาทั้งสองข้างปิดลง ก่อนที่ร่างกายของเขาจะปล่อยพลังภายใน “ตำราเก้าเสวียนเทียน” ออกมา แล้วค่อยๆดูดกลืนเอาเรกิเข้าสู่ร่างกาย
เมื่อเขาลืมตาขึ้น ดวงตาทั้งสองของเขาส่องประกาย พลังที่แผ่ออกมาจากร่างกายก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
ไม้ฟาดสายฟ้าเลือดมังกรในมือของเขามืดหม่นลงไปบ้างแล้ว
แต่ต่อให้สูญเสียเรกิไป มันก็ยังมีชี่สายฟ้าที่แรงกล้าเหลือเอาไว้เล็กน้อย ซึ่งยังถือว่าเป็นของล้ำค่า
ถ้าหากได้รับการเกื้อกูลจากของล้ำค่าอื่นๆล่ะก็ ตอนนี้เย่เฉินจะสามารถใช้มันเพื่อกลั่นเครื่องมือทางธรรมง่ายๆบางอย่างได้
ตอนที่ออกมาจากห้องก็เป็นเวลาค่ำแล้ว
ทันทีที่เขามาถึงห้องนั่งเล่น เย่เฉินก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาของแม่บุญธรรมหม่าหลันดังขึ้นว่า “ตอนนี้วางมาดใหญ่โตแล้วสินะ ข้าวปลาถึงได้ไม่รู้จักทำ รอให้ฉันมาปรนนิบัติแกอยู่เหรอไง?”
เย่เฉินยิ้มอย่างบูดเบี้ยวพร้อมอธิบายว่า “ขอโทษครับคุณแม่ พอดีตอนบ่ายผมเหนื่อยมากก็เลยเผลอหลับไปน่ะครับ”
“อ่อ การไปร่วมประมูลหรือการใส่ร้ายเซียวไห่หลงกันล่ะที่ทำเอาแกเหนื่อยจนแทบแย่น่ะ?” หม่าหลันพูดอย่างโมโห
เย่เฉินมึนงงไปเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “ผมไม่ได้ใส่ร้ายเซียวไห่หลงเลยนะครับ แม่ได้ยินข่าวมาจากไหนกัน...”
หม่าหลันพูดอย่างเย็นชาว่า “ก็ต้องเป็นนายหญิงใหญ่โทรมาบอกฉันน่ะสิ แค่แกทำตัวขายขี้หน้าก็มากพอแล้ว ยังเดือดร้อนให้เซียวไห่หลงถูกไล่ตะเพิดออกมาอีก นายหญิงใหญ่โทรมาด่าฉันไปตั้งยกใหญ่! แกบอกหน่อยสิ ว่าคนไร้ประโยชน์อย่างแกน่ะ ช่วยทำให้สบายใจด้วยการหาเรื่องให้คนที่บ้านลดๆลงหน่อยจะได้ไหม?”
เซียวชูหรันที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นทันทีว่า “แม่คะ ที่เซียวไห่หลงถูกไล่ออกมา ต้องเป็นเพราะตัวเขาเองทำผิดอะไรแน่ๆ เกี่ยวอะไรกับเย่เฉินกันคะ เย่เฉินไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
“จะไม่เกี่ยวได้ยังไง?” หม่าหลันโยนตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างโกรธเกรี้ยว “หลังจากที่เซียวไห่หลงกลับมาก็ฟ้องให้ฟัง ว่าเย่เฉินน่ะได้บัตรเชิญมาด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง พอถูกจับได้ก็ไปยั่วโมโหสำนักเจินเป่าเก๋ออีก เดือดร้อนถึงเขาในฐานะคนตระกูลเซียวก็เลยถูกไล่ออกมาเหมือนกัน เจ้าสำนักเจินเป่าเก๋อยังบอกอีกว่าจากนี้ห้ามคนตระกูลเซียวไป ถ้าไปจะตีให้ขาหัก! ครั้งนี้ตระกูลเซียวขายหน้าเป็นที่สุด!”
ในเวลานี้เองเซียวฉางควนถึงได้เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ฮึ! บัตรเชิญนั่นไม่ได้มีปัญหาตั้งแรกอยู่แล้ว ผมว่านะต้องเป็นไอ้เซียวไห่หลงนั่นทำผิดเองแน่ๆ แล้วกลัวโดนแม่ดุ ก็เลยยกความผิดให้เย่เฉิน....”
“คุณยังจะช่วยเด็กไร้ประโยชน์นี่พูดอีก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณอยากไปงานประมูลนั่นจะเกิดเรื่องไหม?” หม่าหลันดุพร้อมกับถลึงตามองเซียวฉางควน
เซียวฉางควนรีบสงบปากสงบคำแล้วทานอาหารต่อโดยไม่พูดอะไรอีก
หม่าหลันพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คนไร้ประโยชน์แบบนั้นจะมีคุณสมบัติอะไรไปได้รับบัตรเชิญ ตอนนี้ก็ทำให้เซียวไห่หลงไม่พอใจไปด้วยแล้ว ดูสิว่ามันจะจัดการยังไง...”
ขณะที่เธอยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ
“ขอโทษครับ คุณชายเย่อยู่บ้านไหมครับ?”
หม่าหลันมีสีหน้าตึงเครียดพร้อมกับถลึงตาใส่เย่เฉินอย่างโมโห “แย่แล้ว ต้องเป็นนายหญิงใหญ่มาสอบสวนแน่ ดูสิแกทำเรื่องงามไส้อะไรไว้!”
“ดูก่อนค่อยว่ากันสิคะ” เซียวชูหรันท่าทางเคร่งขรึม เธอลุกขึ้นเดินไปยังประตู
ห้องนั่งเล่นเงียบสงัด หม่าหลันกับเซียวฉางควนลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับคิดไปด้วยว่าจะรับมือกันอย่างไรดี
ชายวัยกลางคนพูดจบก็โค้งตัวลงต่ำต่อหน้าเย่เฉิน
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมพูดว่า “ครับ วางของลงเถอะ”
ต่อจากนั้นชายวัยกลางคนก็ล้วงหยิบบัตรเชิญสีทองสองใบออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นมาตรงเย่เฉินอย่างนอบน้อมพร้อมเอ่ยขึ้นว่า “นี่เป็นบัตรเชิญสำหรับงานประมูลครั้งใหม่ เชิญท่านกับท่านเซียวไปที่นั่นด้วยครับ ครั้งนี้กระผมขอรับรองว่าจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวังอีก ขอพวกท่านให้โอกาสเราได้ชดเชยสักครั้งด้วยครับ!”
พูดจบเขาก็อธิบายขึ้นอีกว่า “ยังมีบัตรรอยัลวีไอพีของสำนักเจินเป่าเก๋อด้วยครับ บัตรประเภทนี้พวกเรามีมอบให้เพียงสิบใบเท่านั้นและมีผลใช้ได้ตลอด เมื่อมาถึงสำนักเจินเป่าเก๋อแล้วสามารถเพลิดเพลินไปกับการต้อนรับที่ดีที่สุดได้เลยครับ”
เย่เฉินกวาดตามองบัตรรอยัลวีไอพี หน้าบัตรสีทองอร่ามเป็นทองคำเปลวเลี่ยมเพชร
เขาพูดขึ้นอย่างเรียบนิ่งว่า “ผมไม่ได้สนใจงานประมูลขนาดนั้น คุณลองถามคุณพ่อผมดูนะครับ”
“ครับ” ชายวัยกลางคนรีบร้อนยื่นบัตรให้เซียวฉางควนพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านเซียว วันนี้ต้องขออภัยด้วยจริงๆครับ เชิญท่านเข้าร่วมงานในวันมะรืนนี้โดยไม่ต้องเกรงใจเลยนะครับ”
“นี่...” เซียวฉางควนเพิ่งจะสงบจากความตื่นตกใจ เขามองไปที่บัตรรอยัลวีไอพีแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ
เขาตระหนักดีว่านี่เป็นบัตรรอยัลวีไอพีที่มีจำนวนจำกัดของสำนักเจินเป่าเก๋อ จะมอบให้เพียงผู้ที่มีตำแหน่งภายในสำนักเท่านั้น ไม่เคยส่งมอบให้คนนอกมาก่อน!
ผู้ที่มีบัตรรอยัลวีไอพีนี้สามารถเข้าออกสำนักเจินเป่าเก๋อได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังจะได้เพลิดเพลินไปกับการต้อนรับที่ดีที่สุด สามารถชมวัตถุโบราณและของจัดแสดงในสำนักได้ตามใจ ถ้าจะซื้อก็ยังมีการลดราคาให้มากเป็นพิเศษอีกด้วย
การยั่วยวนแบบนี้ เซียวฉางควนคิดจะปฏิเสธก็คงทำไม่ได้
ขณะที่กำลังจะรับมาอย่างหน้าไม่อาย จู่ๆก็มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากด้านข้างแล้วดึงบัตรรอยัลวีไอพีทั้งสองใบไป
มองดูก็เห็นแม่บุญธรรมหม่าหลันของเย่เฉินที่คว้าบัตรรอยัลวีไอพีทั้งสองใบไปกำลังยิ้มร่า เธอเอ่ยขึ้นพร้อมใบหน้าที่ดีใจจนเต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อพวกคุณมาขอโทษ ของขวัญกับบัตรรอยัลวีไอพีนี่ฉันก็จะฝืนใจรับไว้นะคะ งานประมูลวันมะรืนนี้สามีฉันจะไปแน่นอนค่ะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...